tag:blogger.com,1999:blog-4801031164992366632020-05-12T09:55:54.708+07:00LibreOffice Clubกลุ่มผู้ใช้ LibreOfficeAnonymoushttp://www.blogger.com/profile/05364801001238833866[email protected]Blogger163125tag:blogger.com,1999:blog-480103116499236663.post-18542569945641149362015-08-26T14:21:00.002+07:002015-08-26T14:21:19.758+07:00Osdev ปล่อย Extension สุดเจ๋ง บน LibreOffice ให้ดาวน์โหลด ฟรี!!จากประสบการณ์การให้บริการ LibreOffice มาอย่างยาวนานของ Osdev ทีมงานจึงได้รวบรวมเอาฟีเจอร์ต่างๆ ที่น่าสนใจ มาจัดทำเป็นแพ็คเกจรวบรวม Extension ที่ได้พัฒนาขึ้นมา และปล่อยให้ผู้ที่สนใจดาวน์โหลดใช้งานได้ฟรี!!<br /><div><br /></div><div>Extension ล่าสุดที่ทาง Osdev ได้รวบรวม และปล่อยให้ดาวน์โหลดภายใต้ชื่อว่า QuickMenu โดยหลังจากติดตั้ง Extension ชุดนี้จะมีเมนูชื่อว่า QuickMenu ปรากฏเพิ่มขึ้นมาบนทุกโปรแกรมในชุด LibreOffice ซึ่งสามารถดาวน์โหลด Extension ดังกล่าวได้&nbsp;<a href="https://drive.google.com/file/d/0B9Fti9aU5NhlbzFyU2kycFNrNlU/view?usp=sharing">ที่นี่</a>&nbsp;ครับ</div><table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody><tr><td><a href="http://3.bp.blogspot.com/-KPYPSza1m2I/Vd1k5x2CSuI/AAAAAAAAEa4/heF_Gg0-HbE/s1600/LibreOffice-icons1.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="218" src="http://3.bp.blogspot.com/-KPYPSza1m2I/Vd1k5x2CSuI/AAAAAAAAEa4/heF_Gg0-HbE/s320/LibreOffice-icons1.jpg" width="320" /></a></td></tr><tr><td class="tr-caption" style="font-size: 12.8000001907349px;">ที่มารูปภาพ :&nbsp;<a href="http://linuxcentro.com.br/">http://linuxcentro.com.br</a></td></tr></tbody></table><div><a name='more'></a></div><div><br /></div><div>ภายใต้เมนูนี้ใหม่นี้ จะมีฟีเจอร์ที่ทางทีมงาน Osdev ได้พัฒนา/ร่วมพัฒนา ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้มีทั้งฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจ และฟีเจอร์สำหรับการแก้ปัญหาบน LibreOffice ที่ผู้ใช้มักจะพบเจอบ่อยๆ</div><div><br /></div><div>Extension QuickMenu ในขณะนี้ (เวอร์ชัน 0.4.1) มีฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาคือ ฟีเจอร์สำหรับแปลงจากเลขอารบิกเป็นเลขไทย (บน Writer), ฟีเจอร์สำหรับแก้ปัญหาการสั่ง Cut แล้ว Paste แบบ Shift Cell ไม่ได้ (บน Calc), ฟีเจอร์ในการคัดลอกข้อมูลที่ซ้ำกัน แล้วนำมาวางโดยเอาที่ซ้ำกันออกให้เหลือเพียงรายการเดียว</div><div><br /></div><div><a href="http://3.bp.blogspot.com/-VwYXFVgtdGk/Vd1lJGKTaCI/AAAAAAAAEbA/DEFHqe46yP4/s1600/ossfestival.png" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="http://3.bp.blogspot.com/-VwYXFVgtdGk/Vd1lJGKTaCI/AAAAAAAAEbA/DEFHqe46yP4/s1600/ossfestival.png" /></a>ฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามานี้ บางส่วนได้มาจากกิจกรรม CodeFest ภายใต้โครงการ OSS Festival 2014 ซึ่งเป็นกิจกรรมของสมาคมสมาพันธ์โอเพนซอร์สแห่งประเทศไทย (TOSF) โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ซึ่งผู้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้เป็นนักศึกษาปี 1-2 คณะวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ซึงทาง Osdev ได้รับหน้าที่ Coach และรวบรวมซอร์สโค้ดจัดทำเป็น Extension ให้ดาวน์โหลดกันนี้ครับ</div><div><br /></div><div><br /></div><div>ในอนาคตทาง Osdev ยังคงจะพัฒนาฟีเจอร์บนเมนูนี้เพิ่มเติม ซึ่งถ้ามีท่านใดที่มีไอเดียเจ๋งๆ หรือมีความต้องการที่น่าสนใจ สามารถบอกกันเข้ามาได้ ผ่านทางหน้า facebook เพจ หรือจะส่งข้อความมาก็ได้ ทางเรายินดีรับข้อเสนอแนะครับ</div><br />Tatat Thanakanokhttp://www.blogger.com/profile/17792380976640795984[email protected]0tag:blogger.com,1999:blog-480103116499236663.post-51410492561855774542015-08-20T08:35:00.001+07:002015-08-21T05:01:05.663+07:00สดๆ ร้อนๆ!! LibreOffice 5.0 มาดูกันว่ามีอะไรใหม่ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาทีมงานของ LibreOffice ได้ Release LibreOffice 5.0 ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว วันนี้ เลยจะเอามาให้ดูกันว่า ในเวอร์ชันใหม่นี้มีอะไรใหม่ๆ ที่น่าสนใจกันบ้าง<br /><table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody><tr><td style="text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-NcXXDqQcpnc/VdUpGe5NDOI/AAAAAAAAEaA/PYt9XedprUw/s1600/libreoffice5.0.png" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="165" src="http://1.bp.blogspot.com/-NcXXDqQcpnc/VdUpGe5NDOI/AAAAAAAAEaA/PYt9XedprUw/s400/libreoffice5.0.png" width="400" /></a></td></tr><tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">อ้างอิงรูปภาพจากเว็บไซต์ <a href="http://www.libreoffice.org/">www.libreoffice.org</a></td></tr></tbody></table><div>ผมจะขอยกฟีเจอร์เฉพาะที่น่าสนใจ และบางคนรอคอยมานานมาเล่าให้ฟังนะครับ ส่วนท่านใดต้องการรายละเอียดทั้งหมด สามารถเข้าไปดูได้ที่ลิงค์นี้ได้เลยครับ&nbsp;<a href="https://wiki.documentfoundation.org/ReleaseNotes/5.0">https://wiki.documentfoundation.org/ReleaseNotes/5.0</a><br /><a name='more'></a></div><div><br /></div><div>อันแรกที่ผมเจอปุ๊บ ก็ร้องเฮปั๊บเลยคือฟีเจอร์สำหรับ Crop รูปภาพบน Writer และ Calc ซึ่งแต่เดิมการ Crop รูปภาพบน Writer กับ Calc นั้น เรียกได้ว่าค่อนข้างสาหัสน่าดู คนที่เคยใช้คงเข้าใจความรู้สึกดี แต่สำหรับผู้ที่ไม่เคยใช้ ผมมีตัวอย่างของเวอร์ชันก่อนๆ มาให้ดูครับว่าการ Crop รูปภาพเขาทำอย่างไร</div><div><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-AQTYcrvOt1o/VdUqmpGi3_I/AAAAAAAAEaI/PR5Aika9Btw/s1600/2015-08-20%2B08_16_52-Picture.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="315" src="http://4.bp.blogspot.com/-AQTYcrvOt1o/VdUqmpGi3_I/AAAAAAAAEaI/PR5Aika9Btw/s400/2015-08-20%2B08_16_52-Picture.png" width="400" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">ด้านบนเป็นหน้าต่างสำหรับการ Crop รูปภาพในเวอร์ชันก่อนๆ ครับ เราจะต้องกำหนดว่าจะตัดจากด้านไหน ตัดเข้ามาเท่าไหร่ ซึ่งมันไม่ค่อยสะดวกใช้เท่าไร</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-sjcFHZxPkLg/VdUrskqgHBI/AAAAAAAAEaQ/WZ0NYZNnUHw/s1600/Crop_in_writer.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="248" src="http://2.bp.blogspot.com/-sjcFHZxPkLg/VdUrskqgHBI/AAAAAAAAEaQ/WZ0NYZNnUHw/s400/Crop_in_writer.png" width="400" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">แต่ในเวอร์ชันนี้ การ Crop รูปภาพสามารถใช้เมาส์ลากได้แล้ว โดยเมื่อสั่ง Crop เราก็สามารถนำเมาส์ลากจากขอบรูปเพื่อตัดได้เลย (บน Impress สามารถ Crop แบบนี้ได้ตั้งแต่เวอร์ชัน 3.x แต่บน Writer และ Calc เพิ่งเพิ่มฟีเจอร์นี้เข้ามาในเวอร์ชัน 5.0)</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือ การกำหนดสี จากเดิมที่สามารถเลือกสีได้เฉพาะค่าเริ่มต้นที่โปรแกรมกำหนดให้ ซึ่งหากเราไม่ชอบต้องการผสมสีเอง ก็จะต้องเข้าไปสร้าง Pattern สีในเมนู Format &gt; Area ถึงจะสามารถนำมาใช้งานได้</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">แต่ในเวอร์ชันนี้ เราสามารถจะกำหนด Custom Color ผ่านทางไอคอนที่ใช้กำหนดสีบนทูลบาร์ได้เลย (เช่นเดียวกับบน MS Office)</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-FijH9KTFegI/VdUsnU3oPsI/AAAAAAAAEaY/AzznaHN9rvQ/s1600/New-color-dropdown.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="352" src="http://3.bp.blogspot.com/-FijH9KTFegI/VdUsnU3oPsI/AAAAAAAAEaY/AzznaHN9rvQ/s400/New-color-dropdown.png" width="400" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">อีกหลากหลายฟีเจอร์ครับ ที่ผู้พัฒนาเพิ่มเข้ามาในเวอร์ชั่นนี้ อย่างเช่น เมื่อพิมพ์ข้อความบางอย่างที่โปรแกรมกำหนด ข้อความนั้นก็จะถูกแทนด้วยสัญลักษณ์ (Emoji) และฟีเจอร์ที่อำนวยความสะดวกอย่างเช่น การแสดงตัวอย่างรูปแบบ Style บน Sidebar</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">นอกจากนี้ LibreOffice ยังมีแผนในการพัฒนาฟีเจอร์อีกมากมาย เรามารอดูกันว่าเวอร์ชันหน้าจะมีอะไรใหม่ๆ ให้เราได้มาลองเล่นกันอีก อย่าลืมติดตามกันนะครับ</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">ที่มา :&nbsp;</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><a href="http://www.libreoffice.org/">www.libreoffice.org</a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><a href="https://wiki.documentfoundation.org/">https://wiki.documentfoundation.org</a></div>Tatat Thanakanokhttp://www.blogger.com/profile/17792380976640795984[email protected]0tag:blogger.com,1999:blog-480103116499236663.post-65463837569704677512015-06-24T20:40:00.001+07:002015-06-24T21:06:03.288+07:00มาสร้างจดหมายเวียนบน Writer กันMail Merge เป็นฟีเจอร์ที่ใช้สำหรับสร้างจดหมายเพื่อส่งให้กับผู้รับหลายๆ คน (ไม่ได้เอาไว้รวมจดหมายนะครับ T^T) หรือหลายๆ คนจะเรียกฟีเจอร์นี้ว่าจดหมายเวียน<br /><br /><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-iVqZunZpN-g/VYq4ISTspwI/AAAAAAAAEXU/EEWe82it29I/s1600/8.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em; text-align: center;"><img border="0" height="320" src="http://4.bp.blogspot.com/-iVqZunZpN-g/VYq4ISTspwI/AAAAAAAAEXU/EEWe82it29I/s320/8.png" width="313" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><br /></div><div>การสร้างจดหมายเวียนบน Writer มีอยู่ 2 วิธี คือการใช้ Mail Merge Wizard กับการใช้เมนู Exchange Database ซึ่งครั้งนี้ผมจะมาแนะนำการสร้างจดหมายเวียนด้วยเมนู Exchange Database ก่อน เนื่องจากวิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการสร้างจดหมายเวียนครับ<br /><br /><a name='more'></a></div><div><br /></div><div>เริ่มต้นให้เราเตรียมไฟล์ฐานข้อมูลผู้รับ ที่เราจะนำไปใส่ในเนื้อหาจดหมายก่อน</div><div><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-Z0te_5wBxi8/VYqvn0eKFUI/AAAAAAAAEWQ/WXk0LRIl7O0/s1600/1.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="85" src="http://3.bp.blogspot.com/-Z0te_5wBxi8/VYqvn0eKFUI/AAAAAAAAEWQ/WXk0LRIl7O0/s400/1.png" width="400" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">และเตรียมไฟล์จดหมายให้พร้อม</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-vC6B0r9aPY0/VYqv2c87lII/AAAAAAAAEWY/rL0dF8pAYhs/s1600/2.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="267" src="http://1.bp.blogspot.com/-vC6B0r9aPY0/VYqv2c87lII/AAAAAAAAEWY/rL0dF8pAYhs/s400/2.png" width="400" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">เมื่อเตรียมความพร้อมเรียบร้อยแล้ว ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการทำ Mail Merge โดยไปที่เมนู Edit &gt; Exchange Database</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-bU5NRyFQxzY/VYqwNp4PXJI/AAAAAAAAEWg/cbCKFcvfhx0/s1600/3.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="218" src="http://2.bp.blogspot.com/-bU5NRyFQxzY/VYqwNp4PXJI/AAAAAAAAEWg/cbCKFcvfhx0/s400/3.png" width="400" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">กดปุ่ม Browse เพื่อเลือกไฟล์ฐานข้อมูลที่เตรียมเอาไว้</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-6jRnXWnyNtQ/VYqwglZ66_I/AAAAAAAAEWo/d_ocxBqFVqE/s1600/4.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="226" src="http://1.bp.blogspot.com/-6jRnXWnyNtQ/VYqwglZ66_I/AAAAAAAAEWo/d_ocxBqFVqE/s400/4.png" width="400" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">เมื่อ Browse ไฟล์ฐานข้อมูลขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว จะเห็นว่ามีรายการเพิ่มขึ้นมาในกล่องด้านบน จากนั้นก็กดปุ่ม Close เพื่อปิดหน้านี้ไปได้เลย</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">ขั้นตอนที่เล่าไป เป็นขั้นตอนสำหรับการเชื่อมต่อฐานข้อมูลกับเอกสารจดหมาย หลังจากนี้จะเป็นขั้นตอนสำหรับการนำฟิลด์จากไฟล์ฐานข้อมูลมาใส่ในเอกสารจดหมาย ของเราในตำแหน่งที่เราต้องการ โดยการกดปุ่ม F4 เพื่อเปิดหน้าต่าง Data Source</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-n0F4j_qIC5E/VYqxV55diCI/AAAAAAAAEW0/fSBfodjavVc/s1600/5.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="271" src="http://3.bp.blogspot.com/-n0F4j_qIC5E/VYqxV55diCI/AAAAAAAAEW0/fSBfodjavVc/s400/5.png" width="400" /></a></div><div><br /></div><div>จากนั้นให้เลือกฐานข้อมูลที่เราได้เชื่อมต่อไว้ แล้วก็ให้ลากฟิลด์ที่เราต้องการจากฐานข้อมูล ลงมาวางในเอกสาร ณ ตำแหน่งที่เราต้องการ แล้วสังเกตว่า ในจดหมายจะปรากฎเป็นชื่อฟิลด์</div><div><br /></div><div>เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการการทำจดหมายเวียน จากนั้นก็เพียงแค่สั่งพิมพ์โดยการไปที่เมนู File &gt; Print ซึ่งจะมีหน้าต่างแจ้งเตือนเกี่ยวกับการสั่งพิมพ์ข้อมูลที่มีการเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลอื่นไว้ ให้ตอบ Yes เพื่อยืนยันการสั่งพิมพ์</div><div><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-mCFQ5qJO0fk/VYqyCDuPa2I/AAAAAAAAEW8/MR8vecaUvyI/s1600/6.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="92" src="http://2.bp.blogspot.com/-mCFQ5qJO0fk/VYqyCDuPa2I/AAAAAAAAEW8/MR8vecaUvyI/s400/6.png" width="400" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">จากนั้นสามารถเลือกข้อมูลสำหรับการสั่งพิมพ์จดหมายเวียนได้ทันที</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-j7jfzx8TXTo/VYqyVcNkmHI/AAAAAAAAEXE/7erB2iOtVi4/s1600/7.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="302" src="http://2.bp.blogspot.com/-j7jfzx8TXTo/VYqyVcNkmHI/AAAAAAAAEXE/7erB2iOtVi4/s400/7.png" width="400" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">วิธีการสร้างจดหมายเวียนผ่านเมนู Exchange Database ข้อดีคือง่าย และเร็ว แต่มีข้อเสียคือ ไม่สามารถดูตัวอย่างของจดหมายเวียนก่อนสั่งพิมพ์ได้ (แต่สามารถสั่งพิมพ์เป็นไฟล์ก่อน สั่งพิมพ์ผ่านปริ้นเตอร์ได้)&nbsp;</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">โดยถ้าใครต้องการดูตัวอย่างก่อนการสั่งพิมพ์ หรืออาจจะต้องการแก้ไขรายละเอียดบางอย่างก่อน คราวหน้าผมจะมาแนะนำวิธีการสร้างจดหมายเวียนด้วย Mail Merge Wizard ซึ่งสามารถดูตัวอย่าง และสามารถแก้ไขรายละเอียดก่อนการสั่งพิมพ์ได้&nbsp;</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">ส่วนเนื้อหาในบทความนี้ก็มีเพียงเท่านี้ อย่าลืมติดตามบทความต่อๆ ไปด้วยนะครับ</div>Tatat Thanakanokhttp://www.blogger.com/profile/17792380976640795984[email protected]0tag:blogger.com,1999:blog-480103116499236663.post-69357344701581227312015-06-03T21:14:00.001+07:002015-06-03T21:14:39.615+07:00ล้วงลึก วิธีกำหนด Numbering อย่างมืออาชีพเวลาที่ผมไปสอนการใช้งาน Writer พอถึงหัวข้อการใช้งาน Numbering จะพบว่าผู้ใช้งานไม่ค่อยชอบใช้ Numbering รวมไปถึง Bullet สักเท่าไร โดยให้เหตุผลว่า มันกำหนดตำแหน่งยาก เขาเลยไม่ใช้ Numbering แต่หันไปพิมพ์ตัวเลขกันเอง ซึ่งมันก็ทำให้การแก้ไขในภายหลังยุ่งยากมาก<br /><br /><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><br /><a href="http://3.bp.blogspot.com/-KR5uZj4KCH8/VW8Go1n5xbI/AAAAAAAAES8/JyJrrvCLnf4/s1600/2015-06-03%2B20_39_37-Untitled%2B1%2B-%2BLibreOffice%2BWriter.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="304" src="http://3.bp.blogspot.com/-KR5uZj4KCH8/VW8Go1n5xbI/AAAAAAAAES8/JyJrrvCLnf4/s640/2015-06-03%2B20_39_37-Untitled%2B1%2B-%2BLibreOffice%2BWriter.png" width="640" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">เวลาเราสร้าง Numbering หลายท่านอาจจะพบปัญหาเหมือนกับตัวอย่างด้านบน ซึ่่งจะเห็นว่ารูปแบบมันแปลกๆ ซึ่งหลายท่านจะรู้สึกว่าจัดตำแหน่งยาก</div><a name='more'></a><br /><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">ผมจะแนะนำวิธีการจัดตำแหน่งในส่วนนี้ให้ดูนะครับ ว่าจริงๆ แล้วถ้าเราเข้าใจ การจัดตำแหน่งของ Numbering นั้นไม่ยากเลย เริ่มต้นโดยการคลิกขวาในส่วนของ Numbering แล้วเลือกเมนู Bullet and Numbering</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-KR5uZj4KCH8/VW8Go1n5xbI/AAAAAAAAES8/JyJrrvCLnf4/s1600/2015-06-03%2B20_39_37-Untitled%2B1%2B-%2BLibreOffice%2BWriter.png" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><br /></a><a href="http://3.bp.blogspot.com/-KR5uZj4KCH8/VW8Go1n5xbI/AAAAAAAAES8/JyJrrvCLnf4/s1600/2015-06-03%2B20_39_37-Untitled%2B1%2B-%2BLibreOffice%2BWriter.png" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><br /></a><a href="http://3.bp.blogspot.com/-KR5uZj4KCH8/VW8Go1n5xbI/AAAAAAAAES8/JyJrrvCLnf4/s1600/2015-06-03%2B20_39_37-Untitled%2B1%2B-%2BLibreOffice%2BWriter.png" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><br /></a><a href="http://3.bp.blogspot.com/-KR5uZj4KCH8/VW8Go1n5xbI/AAAAAAAAES8/JyJrrvCLnf4/s1600/2015-06-03%2B20_39_37-Untitled%2B1%2B-%2BLibreOffice%2BWriter.png" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><br /></a><a href="http://2.bp.blogspot.com/-plhWl8XGkkk/VW8Go122qUI/AAAAAAAAETA/Q1ZQ8D54gEY/s1600/2015-06-03%2B20_40_25-Untitled%2B1%2B-%2BLibreOffice%2BWriter.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="217" src="http://2.bp.blogspot.com/-plhWl8XGkkk/VW8Go122qUI/AAAAAAAAETA/Q1ZQ8D54gEY/s400/2015-06-03%2B20_40_25-Untitled%2B1%2B-%2BLibreOffice%2BWriter.png" width="400" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">จากนั้นไปที่แท็บ Position เพื่อจัดตำแหน่ง</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"></div><br /><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-QdF20UVyO-4/VW8GqeJx_3I/AAAAAAAAETs/xPnBYM0dOdU/s1600/2015-06-03%2B20_44_01-Bullets%2Band%2BNumbering.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="217" src="http://2.bp.blogspot.com/-QdF20UVyO-4/VW8GqeJx_3I/AAAAAAAAETs/xPnBYM0dOdU/s400/2015-06-03%2B20_44_01-Bullets%2Band%2BNumbering.png" width="400" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">ดูตัวอย่างรูปด้านบนนะครับ ก่อนอื่นเลยลองดูตรงหัวข้อ Level ก่อน ซึ่งขณะนี้เลือกอยู่ที่ Level 1 ซึ่งหมายความว่าผมกำลังแก้ไขรูปแบบของ Numbering ในลำดับแรกอยู่ (หัวข้อ 1, 2, 3, ...)</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">จากตัวอย่าง หัวข้อ Aligned at : ตัวเลขนี้ คือตำแหน่งของหัวข้อลำดับของเรา เช่น เลข 1 ของเรา จะอยู่ที่ตำแหน่งกี่เซนติเมตร ซึ่งเวลาเทียบให้เราเทียบกับไม้บรรทัดด้านบนเอกสารนะครับ</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">ถัดมาหัวข้อ Numbering followed at : หมายถึงตำแหน่งของข้อความที่อยู่ด้านหลังตัวเลขหัวข้อ ว่าจะให้ข้อความ อยู่ที่ตำแหน่งกี่เซนติเมตร และสุดท้ายหัวข้อ indent at: หมายถึง เมื่อข้อความด้านหลังตัวเลขมีความยาวมากกว่า 1 บรรทัด ให้ข้อความที่บรรทัดที่ 2 อยู่ ณ ตำแหน่งกี่เซนติเมตร</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">รูปตัวอย่างด้านบน จะแสดงให้เห็นว่าการกำหนดค่าในแต่ละหัวข้อ จะได้ผลลัพธ์อย่างไร</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">มีบางท่านอาจจะพบปัญหานี้ว่า มีการกำหนดตามที่ผมแนะนำไปแล้ว แต่ตำแหน่งของข้อความ ก็ไม่เป็นไปตามระยะที่กำหนด ผมจะแสดงให้เห็นในรูปด้านล่าง ว่าปัญหาที่พบนั้น เกิดอย่างอะไร</div><br /><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-AkDUEFbU4Tc/VW8Gqa6mx3I/AAAAAAAAETM/Dx4KxwIc87I/s1600/2015-06-03%2B20_48_03-Bullets%2Band%2BNumbering.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="211" src="http://1.bp.blogspot.com/-AkDUEFbU4Tc/VW8Gqa6mx3I/AAAAAAAAETM/Dx4KxwIc87I/s400/2015-06-03%2B20_48_03-Bullets%2Band%2BNumbering.png" width="400" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">รูปด้านบนนี้ ให้สังเกตว่าผมมีการกำหนดรูปแบบของ Numbering ของ Level 2 โดยกำหนดตำแหน่งของ Numbering followed at: ไว้ที่ 2.2 เซนติเมตร แต่ข้อความที่อยู่ด้านหลังหัวข้อของผม ไม่อยู่ในตำแหน่งที่ผมกำหนดไว้</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">สาเหตุคือตำแหน่งที่ 2.2 เซนติเมตรนั้น ไม่สามารถวางเนื้อหาได้ เนื่องจากหัวข้อ 2.1 จากที่เห็นในตัวอย่างนั้น มีข้อความที่ยาวจนเกินตำแหน่ง 2.2 เซนติเมตร ทำให้ข้อความไม่สามารถวางในตำแหน่งดังกล่าวได้ ข้อความด้านหลังจึงถึงผลักไปยังตำแหน่งถัดไปที่สามารถวางข้อความได้ จึงทำให้เกิดผลลัพธ์ดังรูปตัวอย่าง</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">วิธีการแก้ไขก็เพียงแค่ขยับตำแหน่งของ Numbering followed at: ให้ห่างออกไป ให้เพียงพอที่ข้อความจะสามารถวางในตำแหน่งที่ระบุได้</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">ตัวอย่างถัดไปนี้ จะชี้ให้เห็นความแตกต่างในการกำหนด Indent at: ว่าหากมีการปรับเปลี่ยนจะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอย่างไร</div><br /><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-Su5H6djh9Sc/VW8Gqmr1NRI/AAAAAAAAETQ/suNgwjZKNUU/s1600/2015-06-03%2B20_50_25-Bullets%2Band%2BNumbering.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="217" src="http://2.bp.blogspot.com/-Su5H6djh9Sc/VW8Gqmr1NRI/AAAAAAAAETQ/suNgwjZKNUU/s400/2015-06-03%2B20_50_25-Bullets%2Band%2BNumbering.png" width="400" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">หากเราต้องการกำหนดให้ข้อความในบรรทัดที่ 2 นั้นเริ่มในตำแหน่งตรงกันกับข้อความในบรรทัดแรก ให้เรากำหนดระยะของ Indent at: ให้มีค่าเท่ากับในช่อง Numbering followed at: แต่หากต้องการให้ข้อความในบรรทัดที่ 2 เริ่มในตำแหน่งที่ตรงกับหัวข้อตัวเลข ให้เปลี่ยนระยะเป็นค่าเดียวกันกับในหัวข้อ Aligned at: แทนดังเช่นรูปตัวอย่างด้านบน</div><br /><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-uaMgWRIG8Rc/VW8GrLUdULI/AAAAAAAAETc/Y9xJcqnWASY/s1600/2015-06-03%2B20_51_35-Bullets%2Band%2BNumbering.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="213" src="http://2.bp.blogspot.com/-uaMgWRIG8Rc/VW8GrLUdULI/AAAAAAAAETc/Y9xJcqnWASY/s400/2015-06-03%2B20_51_35-Bullets%2Band%2BNumbering.png" width="400" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">สุดท้าย หากเราต้องการกำหนดระยะให้ข้อความในบรรทัดที่ 2 เริ่มที่ตำแหน่งชิดระยขอบกระดาษ ก็เพีย</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">งแค่กำหนดระยะในช่อง indented at: ให้เป็น 0 ก็จะได้ผลลัพธ์ดังรูปตัวอย่างด้านบนครับ</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">สรุปคือระยะของข้อความด้านหลังตัวเลข Numbering นั้นเราสามารถกำหนดระยะได้ในแท็บ Position บนหน้าต่างการตั้งค่า Numbering ซึ่งหากแสดงผลไม่ตรงตามที่เราต้องการ ก็ลองปรับ หรือขยับดูครับ หากทำตามวิธีด้านบน ผมเชื่อว่าจะทำให้การแก้ไขเอกสารในภายภาคหน้า สะดวกขึ้นมากเลยล่ะครับ</div><br /><br />Tatat Thanakanokhttp://www.blogger.com/profile/17792380976640795984[email protected]0tag:blogger.com,1999:blog-480103116499236663.post-86007731757645139852015-05-31T22:22:00.000+07:002015-05-31T22:22:11.671+07:00วิธีการแทรก และสั่งพิมพ์ comment บน Writerการแทรก comment บน Writer ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด แต่การสั่งพิมพ์ comment บน Writer นั้นมีการปรับปรุงฟีเจอร์นี้ใหม่ ตั้งแต่เวอร์ชัน 4.3 เป็นต้นมา โดยเราจะเริ่มอธิบายกันตั้งแต่การแทรก comment จนถึงการสั่งพิมพ์กันในบทความนี้ครับ<br /><br />การแทรก comment ทำได้โดยการคลิกเลือกตำแหน่งของคำ ที่เราต้องการจะอธิบายด้วย comment จากนั้นเลือกเมนู Insert &gt; Comment<br /><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-RiXSX7DXArM/VWsh9oHZdII/AAAAAAAAESA/2jjgUUlOU8Q/s1600/2015-05-31%2B21_56_18-Untitled%2B1%2B-%2BLibreOffice%2BWriter.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="315" src="http://1.bp.blogspot.com/-RiXSX7DXArM/VWsh9oHZdII/AAAAAAAAESA/2jjgUUlOU8Q/s400/2015-05-31%2B21_56_18-Untitled%2B1%2B-%2BLibreOffice%2BWriter.png" width="400" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">เพียงแค่นี้ก็จะมีปรากฏ comment ขึ้นมาทางด้านขวามือ</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-Tw8KcobRLi8/VWsixX4d58I/AAAAAAAAESI/b4MMi4cu3zU/s1600/2015-05-31%2B22_03_03-Untitled%2B1%2B-%2BLibreOffice%2BWriter.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="212" src="http://4.bp.blogspot.com/-Tw8KcobRLi8/VWsixX4d58I/AAAAAAAAESI/b4MMi4cu3zU/s640/2015-05-31%2B22_03_03-Untitled%2B1%2B-%2BLibreOffice%2BWriter.png" width="640" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">การกำหนดรูปแบบ และจัดการ comment ก็ทำได้ง่ายโดยการคลิกที่ลูกศรที่อยู่ใน comment จะพบเมนูดังรูปด้านล่าง</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-XMPYg862o-0/VWsjP81-eZI/AAAAAAAAESQ/u9zDPY9p_tQ/s1600/2015-05-31%2B22_04_10-Untitled%2B1%2B-%2BLibreOffice%2BWriter.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="203" src="http://1.bp.blogspot.com/-XMPYg862o-0/VWsjP81-eZI/AAAAAAAAESQ/u9zDPY9p_tQ/s400/2015-05-31%2B22_04_10-Untitled%2B1%2B-%2BLibreOffice%2BWriter.png" width="400" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"></div><ul><li>Delete Comment คือการสั่งลบ Comment ที่เลือกนี้</li><li>Delete All Comments by คือการสั่งลบ Comment โดยระบุชื่อผู้ใช้ที่สร้าง Comment (กรณีที่มีการแก้ไขเอกสารด้วยผู้ใช้หลายคน)</li><li>Delete All Comments คือการสั่งลบ Comment ทั้งหมดในคราวเดียว</li><li>Format All Comments คือการกำหนดรูปแบบการแสดงผลของ Comment</li></ul><div>ในที่นี้จะลองเข้าไปดูให้เห็นว่าหากต้องการกำหนด Format ให้กับ Comment จะทำได้อย่างไร โดยการเลือกรายการ Format All Comments</div><div><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-pNYiKomvgXQ/VWskLbzPhQI/AAAAAAAAESY/BMeYlnkvNCo/s1600/2015-05-31%2B22_09_07-Character.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="282" src="http://2.bp.blogspot.com/-pNYiKomvgXQ/VWskLbzPhQI/AAAAAAAAESY/BMeYlnkvNCo/s400/2015-05-31%2B22_09_07-Character.png" width="400" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">โดยเราสามารถกำหนดรูปแบบของฟอนต์ ขนาดฟอนต์ (บนแท็บ Font) สีฟอนต์ และเอฟเฟ็คต่างๆ (บนแท็บ Font Effect) และตำแหน่งของข้อความ (บนแท็บ Position)</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">การกำหนดรูปแบบในหน้าต่างนี้จะมีผลกับ Comment ทุกๆ อันบนเอกสาร แต่หากใครต้องการให้มีผลแค่ Comment อันใดอันหนึ่ง ก็ให้ใช้การเปลี่ยนรูปแบบบนทูลบาร์ตามปกติ เนื่องจากฟีเจอร์นี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อจัดการ Comment ทุกอันในคราวเดียว คล้ายกับรูปแบบการใช้ Style แต่เป็นสำหรับ Comment เท่านั้น</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">สุดท้ายมาดูการสั่งพิมพ์กันบ้าง ซึ่งฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาในเวอร์ชัน 4.3 นั้นคือเราสามารถสั่งพิมพ์ Comment โดยให้ Comment แสดงอยู่ที่ขอบกระดาษได้ เริ่มด้วยการสั่งพิมพ์ตามปกติ ไปที่เมนู File &gt; Print</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-77e9R007by8/VWsleAoLbjI/AAAAAAAAESk/IxuaxEWEyWE/s1600/2015-05-31%2B22_13_03-Untitled%2B1%2B-%2BLibreOffice%2BWriter.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="275" src="http://3.bp.blogspot.com/-77e9R007by8/VWsleAoLbjI/AAAAAAAAESk/IxuaxEWEyWE/s400/2015-05-31%2B22_13_03-Untitled%2B1%2B-%2BLibreOffice%2BWriter.png" width="400" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">ในหน้าต่างสำหรับการสั่งพิมพ์จะสังเกตเห็นส่วนของ Print ด้านล่าง จะพบว่ามีรายการที่เขียนว่า Place in margins ให้เลือก ซึ่งแต่เดิมในเวอร์ชันก่อนๆ จะสามารถสั่งพิมพ์ โดยมีตัวเลือกเพียงแค่ 3 รายการด้านบนคือ</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"></div><ul><li>Comments only หมายถึงสั่งพิมพ์เฉพาะ comment เท่านั้น ไม่พิมพ์เนื้อหาเอกสาร</li><li>Place at end of document หมายถึงสั่งพิมพ์เนื้อหา และ comment แต่ comment ทั้งหมดจะพิมพ์รวมกันที่หน้าสุดท้ายของเอกสาร</li><li>Place at end of page หมายถึงสั่งพิมพ์เนื้อหา และ comment โดย comment จะอยู่ท้ายกระดาษในแต่ละหน้า</li></ul><div>แต่หลังจากเวอร์ชัน 4.3 เป็นต้นมา จะมีตัวเลือก Place in margins ให้เลือก โดยหากเลือกรายการนี้ จะเป็นการสั่งพิมพ์ เนื้อหา และ comment โดย comment จะถูกพิมพ์อยู่ในบริเวณขอบกระดาษ โดยสามารถดูตัวอย่างก่อนพิมพ์ได้</div><div><br /></div><div>ฟีเจอร์นี้มีคนถามถึงบ่อย โดยเฉพาะใครที่มีการทำงานเอกสารแบบส่งให้ผู้อื่นตรวจ/แก้ ผู้ตรวจก็จะทำการแทรก Comment เพื่อให้ผู้สร้างเอกสารเห็นว่ามีส่วนใดผิดพลาด ซึ่งฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามานี้ จะช่วยให้เมื่อสั่งพิมพ์เอกสารลักษณะนี้ สามารถทำได้ง่ายขึ้นครับ</div><br /><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div><br /></div><br /><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><br />Tatat Thanakanokhttp://www.blogger.com/profile/17792380976640795984[email protected]0tag:blogger.com,1999:blog-480103116499236663.post-65726260913622452782015-05-31T21:09:00.001+07:002015-05-31T21:09:06.915+07:00มาดู ฟีเจอร์ใหม่ใน LibreOffice เวอร์ชัน 4.4.x กันตอนนี้ LibreOffice ได้ออกเวอร์ชัน 4.4.3 มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรามาลองดูกันสิว่าในเวอร์ชันล่าสุดนี้ มีฟีเจอร์อะไรใหม่ๆ ที่น่าสนใจบ้างครับ<br /><br />ฟีเจอร์แรกที่เพิ่มเข้ามาในเวอร์ชันนี้คือ การเพิ่มประสิทธิภาพของ Track Change บน writer โดยในเวอร์ชันนี้จะปรับปรุงเกี่ยวกับการ Accept และ Reject Change ในเอกสาร พร้อมทั้งเพิ่ม toolbar เกี่ยวกับ track change ขึ้นมา<br /><br /><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-M-eVWConYfQ/VWsTJ2X0INI/AAAAAAAAERc/0mXFHE1U6fE/s1600/Changes_toolbar.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="78" src="http://1.bp.blogspot.com/-M-eVWConYfQ/VWsTJ2X0INI/AAAAAAAAERc/0mXFHE1U6fE/s400/Changes_toolbar.png" width="400" /></a></div><a name='more'></a><br /><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">ในเวอร์ชันนี้ยังมีการปรับปรุง UI ของการใช้ style ที่เรียกว่า Style DropDown เพื่อให้สามารถเข้าถึงการแก้ไขรูปแบบของ style ผ่านไอคอนบนทูลบาร์ (ไม่จำเป็นต้องเปิดหน้าต่าง style and formatting)</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-InjYlvBLe4U/VWsT-XqerjI/AAAAAAAAERk/Nrdc-B0sHhM/s1600/Styledropdown.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="317" src="http://1.bp.blogspot.com/-InjYlvBLe4U/VWsT-XqerjI/AAAAAAAAERk/Nrdc-B0sHhM/s320/Styledropdown.png" width="320" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">อีกฟีเจอร์ที่เด่นๆ คือการปรับปรุงให้ shape หรือรูปวาดที่วาดขึ้นมา มี text box อยู่ด้านใน ตอนแรกที่อ่านฟีเจอร์นี้ก็สงสัยว่า ปกติใน shape หรือรูปวาด เราก็สามารถพิมพ์ข้อความได้อยู่แล้วนี่นา แต่พอมาอ่านละเอียดจริงๆ การพิมพ์ข้อความเข้าไปในรูปวาดแบบที่เคยทำนั้น มีข้อจำกัดอยู่หลายอย่าง โดยเฉพาะข้อความที่มีความซับซ้อน ซึ่งฟีเจอร์ใหม่นี้จะแก้ปัญหาเหล่านั้นไปได้ครับ</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-T9Dld8Dme1A/VWsUmnOr0-I/AAAAAAAAERw/vIhHF7hJnrU/s1600/Swtextbox.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="266" src="http://4.bp.blogspot.com/-T9Dld8Dme1A/VWsUmnOr0-I/AAAAAAAAERw/vIhHF7hJnrU/s400/Swtextbox.png" width="400" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">สุดท้ายนี้ น่าจะเป็น Highlight ของฟีเจอร์ใหม่บนเวอร์ชันนี้เลยครับ เป็นฟีเจอร์ที่ใช้สำหรับองค์กรที่มีระบบ Document Management อย่าง SharePoint หรือ OneDrive</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">ในเวอร์ชันก่อนหน้านี้ LibreOffice มีการเพิ่มฟีเจอร์หนึ่งที่ใช้สำหรับการบันทึกเอกสารไปยังระบบ ECM ตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Alfresco และก็มีคำถามมามากมายว่า นอกจาก Alfresco แล้ว LibreOffice สามารถใช้งานร่วมกับระบบ DMS ตัวอื่นๆ ได้ไหม ยกตัวอย่างเช่น SharePoint</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">วันนี้คำตอบนั้นได้มาถึงแล้ว เมื่อ LibreOffice ได้มีการประกาศว่าในเวอร์ชัน 4.4 นี้ มีการรองรับสำหรับการเชื่อมต่อไปยัง SharePoint และ OneDrive เป็นที่เรียบร้อยแล้ว</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">ส่วนวิธีการเชื่อมต่อทำอย่างไรนั้น คงขอทบเอาไว้ไปอธิบายในบทความหน้าละกันนะครับ ใครที่สนใจจะทดลองดาวน์โหลด LibreOffice เวอร์ชันนี้มาลองเล่นกัน สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่ www.libreoffice.org ได้ตั้งแต่ตอนนี้เลยครับ</div><br />Tatat Thanakanokhttp://www.blogger.com/profile/17792380976640795984[email protected]0tag:blogger.com,1999:blog-480103116499236663.post-30952592350714740872015-05-31T20:22:00.000+07:002015-05-31T20:31:59.683+07:00ฟีเจอร์ใหม่ๆ บน LibreOffice 4.3.xวันที่ผมเขียนบทความนี้ LibreOffice ได้ออกเวอร์ชัน 4.4 ไปเรียบร้อยแล้ว และเวอร์ชัน 5.0 กำลังมีแผนที่จะออกอีกในไม่กี่เดือน แต่ผมมาย้อนดูบทความพบว่าผมยังไม่เคยเขียนเกี่ยวกับฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาตอนเวอร์ชัน 4.3 เลย T^T<br /><br />เพราะฉะนั้นก่อนที่ผมจะเขียนเกี่ยวกับฟีเจอร์ใหม่ 4.4 จึงขอกล่าวถึงเวอร์ชัน 4.3 ก่อนนะครับ แล้วบทความเกี่ยวกับเวอร์ชัน 4.4 จะรีบทำคลอดให้ออกมาติดๆ กันเลยครับ ^^<br /><br />ในเวอร์ชัน 4.3 นั้นฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาและมีความน่าสนใจที่สุดสำหรับผม น่าจะเป็นเรื่องความสามารถบน Writer ที่สามารถสั่งพิมพ์ comment ได้แล้ว<br /><br />หลายคนที่เล่น Writer มาอย่างช่ำชองคงเถียงผมว่า Writer มันก็สั่งพิมพ์ comment ได้ตั้งนานแล้วนี่นา จริงๆ แล้ว Writer สามารถสั่งพิมพ์ comment ได้นานแล้ว อย่างที่ว่ากันล่ะครับ แต่การสั่งพิมพ์ comment ของเวอร์ชันก่อนๆ นั้นทำได้แค่สั่งพิมพ์ไปไว้ที่ท้ายหน้ากระดาษ หรือไว้หน้าสุดท้ายของเอกสารฉบับนั้นๆ แต่ไม่สามารถสั่งพิมพ์ comment ไว้ที่ margin ของเอกสารได้<br /><br /><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-sfF9FUxmlf8/VWsF884Pz_I/AAAAAAAAEQs/CHOCggF28lU/s1600/800px-In-margins-option.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="280" src="http://4.bp.blogspot.com/-sfF9FUxmlf8/VWsF884Pz_I/AAAAAAAAEQs/CHOCggF28lU/s400/800px-In-margins-option.png" width="400" /></a></div><a name='more'></a><br /><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">แต่ในเวอร์ชันนี้ สามารถสั่งพิมพ์ comment ไว้บน margin ได้เรียบร้อยแล้วครับ ซึ่งก่อนนี้ผมคิดว่ามันดูตลกดีนะที่เอา comment ไปพิมพ์ไว้ท้ายเอกสาร ^^ แต่ฟีเจอร์ที่เพิ่มมานี้ทำให้ผมเบาใจแล้วครับ</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">ในเวอร์ชันนี้มีการปรับปรุงเรื่อง comment อีกหลายเรื่องเลยครับ เช่น สามารถกำหนด format ของ comment ได้ทีเดียวทั้งหมด และยังสามารถ imported/exported comment จากไฟล์ doc และ docx ได้อีกด้วย</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">อีกอย่างที่มีการปรับปรุงในเวอร์ชันนี้แล้วทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นคือ การปรับปรุงวิธีการ highlight สูตรที่มีการอ้างอิงเซลล์ โดยเวอร์ชันก่อนๆ การ highlight ค่อนข้างทำให้ผมสับสนพอสมควร แต่ในเวอร์ชันนี้ มีการปรับปรุงให้ดีขึ้น ใครนึกไม่ออก ลองดูรูปด้านล่างนะครับ</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-V3a9OWM5Q3o/VWsHcIXaakI/AAAAAAAAEQ4/4bPLeEe6UtU/s1600/Different-colors-after.png" imageanchor="1" style="-webkit-text-stroke-width: 0px; clear: left; font-family: 'Times New Roman'; font-size: medium; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: normal; letter-spacing: normal; line-height: normal; margin-bottom: 1em; margin-left: auto; margin-right: auto; orphans: auto; text-align: center; text-indent: 0px; text-transform: none; white-space: normal; widows: 1; word-spacing: 0px;"></a></div><table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="-webkit-text-stroke-width: 0px; float: left; font-family: 'Times New Roman'; letter-spacing: normal; margin-bottom: 0.5em; margin-right: 1em; orphans: auto; padding: 6px; text-align: left; text-indent: 0px; text-transform: none; widows: 1; word-spacing: 0px;"><tbody><tr><td style="text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-qJZTk91aayc/VWsHb-IraCI/AAAAAAAAEQ0/V38wTR5Dkmg/s1600/Different-colors-before.png" imageanchor="1" style="clear: right; display: inline !important; margin-bottom: 1em; margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="200" src="http://4.bp.blogspot.com/-qJZTk91aayc/VWsHb-IraCI/AAAAAAAAEQ0/V38wTR5Dkmg/s200/Different-colors-before.png" width="200" /></a></td></tr><tr><td class="tr-caption" style="font-size: 12.8000001907349px; padding-top: 4px; text-align: center;">รูปแบบในเวอร์ชันเก่า</td></tr></tbody></table><table cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="float: left; margin-right: 1em; text-align: left;"><tbody><tr><td style="text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-V3a9OWM5Q3o/VWsHcIXaakI/AAAAAAAAEQ4/4bPLeEe6UtU/s1600/Different-colors-after.png" imageanchor="1" style="clear: right; margin-bottom: 1em; margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="200" src="http://1.bp.blogspot.com/-V3a9OWM5Q3o/VWsHcIXaakI/AAAAAAAAEQ4/4bPLeEe6UtU/s200/Different-colors-after.png" width="200" /></a></td></tr><tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">รูปแบบที่มีการปรับปรุงใหม่</td></tr></tbody></table><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">จะเห็นว่าการ highlight ในเวอร์ชันเก่า มีการเลือกใช้สี highlight หลากหลายมาก ถึงแม้จะเป็นการอ้างอิงในเซลล์เดียวกันก็ตาม แต่ในเวอร์ชันใหม่ หากมีการอ้างอิงเซลล์เดิม สีที่ใช้ในการ highlight ก็ยังคงเป็นสีเดิม ซึ่งทำให้เราดู หรือไล่สูตรได้ง่ายขึ้น</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">อีกฟีเจอร์หนึ่งที่มีการปรับปรุงให้ดีขึ้น คือการทำ PivotTable ที่ได้มีการปรับปรุงให้การแสดงผลในแนวคอลัมน์เป็นค่า Default ซึ่งในเวอร์ชันก่อนจะเลือกแสดงผลในแนวแถวเป็น Default ซึ่งคนส่วนใหญ่จะต้องการการแสดงผลลัพธ์ในแนวคอลัมน์มากกว่า จึงมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้การทำงานในส่วนนี้ของผู้ใช้รวดเร็วขึ้น</div><table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="float: left; margin-right: 1em; text-align: left;"><tbody><tr><td style="text-align: center;"><img border="0" height="108" src="http://2.bp.blogspot.com/-IrxCX-ToAA0/VWsJK8jSkWI/AAAAAAAAERE/gzZyg7ZYpHk/s200/800px-Pivot_table_before_4.3.png" style="margin-left: auto; margin-right: auto;" width="200" /></td></tr><tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">ค่า Default ในเวอร์ชันก่อน (แนวแถว)</td></tr></tbody></table><table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="float: left; margin-right: 1em; text-align: left;"><tbody><tr><td style="text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-VEtgGHGZWak/VWsJK4-XyFI/AAAAAAAAERI/jexWup9DnA8/s1600/800px-Pivot_table_4.3.png" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="108" src="http://3.bp.blogspot.com/-VEtgGHGZWak/VWsJK4-XyFI/AAAAAAAAERI/jexWup9DnA8/s200/800px-Pivot_table_4.3.png" width="200" /></a></td></tr><tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">ค่า Default ที่ปรับปรุงใหม่ (แนวคอลัมน์)</td></tr></tbody></table><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">ในเวอร์ชันนี้ยังมีการปรับปรุง UI และฟีเจอร์อีกหลายๆ อย่าง เช่น ฟีเจอร์สำหรับ import 3D Model ฟีเจอร์สำหรับการ random ตัวเลข และปรับปรุงหน้าจอสำหรับการเลือกสีให้มีรูปแบบที่สวยงาม และใช้งานง่ายขึ้น</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">ฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาในเวอร์ชันนี้ค่อนข้างน่าสนใจ แต่อย่างไรก็ดี อย่างที่เคยอธิบายในทุกๆ ครั้งที่ผมได้เขียนรีวิวฟีเจอร์ในเวอร์ชันใหม่คือ การเลือกเวอร์ชันที่ใช้งาน สำคัญที่ความเสถียรในการใช้งาน มากกว่าฟีเจอร์ของซอฟต์แวร์ เพราะถึงแม้ฟีเจอร์จะเลิศเลอเพอร์เฟ็คอย่างไร แต่ซอฟต์แวร์มีปัญหาระหว่างใช้งานบ่อยๆ ผู้ใช้งานย่อมไม่ประทับใจอย่างแน่นอน</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">เวอร์ชัน 4.3 นี้ตัวผมเองก็ยังไม่ได้มีโอกาสทดสอบอย่างเต็มที่เท่าไร หากผู้ใช้ท่านใดทดลองเล่นแล้ว มีปัญหา หรือประทับใจอะไรอย่างไร ก็มาแนะนำ ให้ความคิดเห็นกันได้นะครับ ผมถือว่าประสบการณ์จากการใช้งานจริงมีค่ามากกว่าบทความที่ผมเขียนนี้มากครับ ^^</div>Tatat Thanakanokhttp://www.blogger.com/profile/17792380976640795984[email protected]0tag:blogger.com,1999:blog-480103116499236663.post-73162267949129095342015-01-26T14:39:00.002+07:002015-01-26T14:41:03.925+07:00มาแล้วๆ LibreOffice (viewer) for Androidถือว่าเป็นข่าวดีที่รอคอยมานาน สำหรับ LibreOffice เวอร์ชันบน Android ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ข่าวดีที่สุด เพราะเวอร์ชันนี้เป็นเพียงแค่ Viewer เท่านั้น แต่อย่างไรก็ดี ผมก็ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับการพัฒนาต่อไปในภายภาคหน้าครับ<br /><br /><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-Q9g5ZGn5ZTg/VMXvI9zB3YI/AAAAAAAAEKs/B85furOqPsw/s1600/2558-01-26%2B14_38_17-LibreOffice%2BViewer%2BBeta%2B-%2BAndroid%2BApps%2Bon%2BGoogle%2BPlay.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="http://1.bp.blogspot.com/-Q9g5ZGn5ZTg/VMXvI9zB3YI/AAAAAAAAEKs/B85furOqPsw/s1600/2558-01-26%2B14_38_17-LibreOffice%2BViewer%2BBeta%2B-%2BAndroid%2BApps%2Bon%2BGoogle%2BPlay.png" height="260" width="400" /></a></div><a name='more'></a><br />LibreOffice Viewer Beta เปิดให้ดาวน์โหลดผ่าน Play Store เมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา โดยแอพพลิเคชันตัวนี้ สามารถเปิดอ่านเอกสารในรูปแบบไฟล์ของ ODF (.odt, .odp, .ods, .ots, .ott, .otp) และ Microsoft Office 97/2000/XP/2003 (.doc, .ppt, .xls, .dot, .xlt, .pps) อีกทั้งรูปแบบของ Microsoft Office 2007/2010/2013 (.docx, .pptx, .xlsx, .dotx, .xltx, .ppsx) ได้อีกด้วย<br /><br />ทางผู้พัฒนาได้ออกตัวก่อนเลยนะครับว่าเวอร์ชันนี้เป็นเวอร์ชัน Beta นะครับ สำหรับผู้ต้องการทดสอบ ทดลอง และพร้อมที่จะ Report ปัญหาที่พบเจอ เพื่อให้ทีมพัฒนาเขาได้พัฒนาให้แอพพลิเคชันตัวนี้เก่งขึ้น และมีปัญหาจุกจิก กวนใจน้อยลง<br /><br />ใครที่ต้องการดาวน์โหลดสามารถเข้าไปยัง Play Store บนระบบปฏิบัติการ Android แล้ว Search คำว่า LibreOffice Viewer Beta (หรือค้นหาคำว่า LibreOffice แล้วหาเอาก็ได้ครับ) หรือจะผ่านลิงค์นี้ก็ได้ครับ&nbsp;<a href="https://play.google.com/store/apps/details?id=com.collabora.libreoffice">https://play.google.com/store/apps/details?id=com.collabora.libreoffice</a><br /><br />สำหรับแอพพลิเคชัน LibreOffice Viewer ตัวนี้ มีไลเซนส์โอเพนซอร์ส (Mozilla Public License v.2) พัฒนาโดยทีม LibreOffice From Collabora โดยได้รับการร่วมมือจาก The Document Foundation, SMOOSE, SUSE provided a key foundation of cross-platform support, Google Summer of Code contributions from Andrzej Hunt and Ian Billet พร้อมด้วยการเพิ่มเติมจาก Igalia S.L. และ core components โดย Mozilla Corporation (ดูรายละเอียด credit เพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ&nbsp;<a href="https://www.google.com/url?q=https://www.google.com/url?q%3Dhttp://libreofficefromcollabora.com/ab-credits%26sa%3DD%26usg%3DAFQjCNEMRaTqGoP6LZrw8VnQKldO2iLw2Q&amp;sa=D&amp;usg=AFQjCNErHC3BaY7qHAUOqkLkl_-8Q7eCzA" style="background-color: whitesmoke; color: #1155cc; cursor: pointer; font-family: Roboto, UILanguageFont, Arial, sans-serif; font-size: 14px; line-height: 20px; text-decoration: none;" target="_blank">http://libreofficefromcollabora.com/ab-credits</a>)<br /><br />ผมก็หวังว่าในอนาคตอันใกล้นี้ จะได้มีโอกาสได้เล่น LibreOffice เวอร์ชัน Android ที่ไม่ใช่เพียงแค่ตัว Viewer เท่านั้นสักทีนะครับ ส่วนตอนนี้ผมขอลองทดสอบกับแอพพลิเคชันที่ว่านี้ก่อนละกันครับ ว่าเปิดเอกสารในเครื่องผมแล้ว จะ work แค่ไหน สำหรับผม แค่มี Viewer ดีๆ ก็เจ๋งแล้ว เพราะเวลาผมไปไหนจะได้ไม่ต้องมาต่อสาย sync เพื่อเปิดอ่านกับ notebook สักที พอกันทีกับความวุ่นวายครับ<br /><br />Tatat Thanakanokhttp://www.blogger.com/profile/17792380976640795984[email protected]0tag:blogger.com,1999:blog-480103116499236663.post-24442304921293178762015-01-14T14:59:00.000+07:002015-01-14T14:59:15.325+07:00TDF ประกาศ! เมืองมิวนิคร่วมเป็นคณะกรรมการที่ปรึกษาของมูลนิธิแล้วThe Document Foundation (ชื่อย่อ TDF) มูลนิธิที่เป็นผู้ดูแลซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สชื่อดังอย่าง LibreOffice ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า เมืองมิวนิคได้เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการที่ปรึกษาของทางมูลนิธิเรียบร้อยแล้ว<br /><a name='more'></a><br /><br />ถ้าจะกล่าวถึงที่มา ต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 2003 โดยเริ่มต้นจากโครงการ LiMux ที่ได้ migrate จากการระบบและซอฟต์แวร์ที่เป็น closed source และ proprietary มาเป็น free software และ open source software ซึ่งโครงการดังกล่าวได้สำเร็จเสร็จสิ้นในปี 2013 ซึ่งจะเห็นว่าใช้เวลาถึง 10 ปีเลยทีเดียว<br /><br />โครงการ LiMux ถือว่าเป็นโครงการ migrate มาใช้ซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สที่ใหญ่มาก เพราะจากโครงการนี้เอง มีเครื่องคอมพิวเตอร์ และ laptop ที่เปลี่ยนมาใช้โอเพนซอร์สถึงกว่า 16,000 เครื่อง<br /><br />โครงการนี้มีหน่วยงานที่เป็นหน่วยงานทางธุรกิจเข้าร่วม 11 แห่ง และหน่วยงานเทศบาลอีก 4 แห่ง โดยเป้าหมายเพื่อลดการพึ่งพาซอฟต์แวร์ประเภท proprietary และเป้าหมายในระยะยาวคือเพื่อความยืดหยุ่นในการเลือกใช้ซอฟต์แวร์<br /><br />นอกจากโครงการ LiMux แล้ว เมืองมิวนิคยังรับเป็นเจ้าภาพในการจัดกิจกรรม LibreOffice HackFest มาตั้งแต่ปี 2011<br /><br />ปัจจุบันนี้คณะกรรมการที่ปรึกษาของ TDF มีสมาชิกด้วยกัน 17 ราย คือ&nbsp;AMD, CIB Software, City of Munich, CloudOn, Collabora, FrODeV (Freies Office Deutschland), FSF (Free Software Foundation), Google, Intel, ITOMIG, KACST (King Abdulaziz City of Science and Technology of Saudi Arabia), Lanedo, MIMO (Consortium of French Ministries), RedHat, SPI (Software in the Public Interest), Studio Storti and SUSE.<br /><br /><span style="color: blue; font-size: x-small;">ที่มา :&nbsp;<a href="http://blog.documentfoundation.org/2015/01/12/the-city-of-munich-joins-the-document-foundation-advisory-board/">http://blog.documentfoundation.org/2015/01/12/the-city-of-munich-joins-the-document-foundation-advisory-board/</a></span>Tatat Thanakanokhttp://www.blogger.com/profile/17792380976640795984[email protected]0tag:blogger.com,1999:blog-480103116499236663.post-16665005846471318952014-11-21T08:01:00.000+07:002014-11-21T08:01:08.630+07:00วิธีการสร้าง Label ด้วย LibreOfficeการสร้าง Label บน LibreOffice เราจะต้องเตรียมไฟล์ฐานข้อมูลที่เราต้องการนำมาใส่ในป้าย Label ของเราก่อน<br /><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-fhWtaObiw8I/VG6GaaxQcoI/AAAAAAAAEHg/2oSVVjFpMSQ/s1600/2557-11-21%2B07_23_34-Untitled%2B1%2B-%2BLibreOffice%2BCalc.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="http://4.bp.blogspot.com/-fhWtaObiw8I/VG6GaaxQcoI/AAAAAAAAEHg/2oSVVjFpMSQ/s1600/2557-11-21%2B07_23_34-Untitled%2B1%2B-%2BLibreOffice%2BCalc.png" height="274" width="320" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">โดยแนะนำให้สร้างข้อมูลบน LibreOffice Calc และบันทึกเป็น .ods</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-EO8ZwapBJqk/VG6GnAuBWuI/AAAAAAAAEHo/YJl46ldEj-c/s1600/2557-11-21%2B07_24_28-label.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="http://4.bp.blogspot.com/-EO8ZwapBJqk/VG6GnAuBWuI/AAAAAAAAEHo/YJl46ldEj-c/s1600/2557-11-21%2B07_24_28-label.png" height="244" width="320" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">จากนั้นให้เปิดโปรแกรม LibreOffice Writer ขึ้นมา แล้วไปที่เมนู Edit &gt; Exchange Database แล้วให้ Browse ไฟล์ข้อมูลในขั้นตอนแรก เพื่อกำหนดให้ไฟล์ดังกล่าวเป็นฐานข้อมูลสำหรับการทำ Label เมื่อได้ผลลัพธ์ในลักษณะเดียวกับรูปด้านล่างนี้แล้ว ให้ปิดหน้าต่างนั้นไปได้เลย</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-Niias2I-8cs/VG6HK71olOI/AAAAAAAAEHw/olHJNsSipd4/s1600/2557-11-21%2B07_27_59-Exchange%2BDatabases.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="http://1.bp.blogspot.com/-Niias2I-8cs/VG6HK71olOI/AAAAAAAAEHw/olHJNsSipd4/s1600/2557-11-21%2B07_27_59-Exchange%2BDatabases.png" height="178" width="320" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">จากนั้นเริ่มสร้าง Label โดยไปที่เมนู File &gt; New &gt; Label แล้วให้สร้าง Label ตามวิธีดังนี้</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-jRTqxI1VORY/VG6JaBvdfxI/AAAAAAAAEH8/e4ofjBeSQe8/s1600/2557-11-21%2B07_35_18-Labels.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="http://4.bp.blogspot.com/-jRTqxI1VORY/VG6JaBvdfxI/AAAAAAAAEH8/e4ofjBeSQe8/s1600/2557-11-21%2B07_35_18-Labels.png" height="251" width="320" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">ขั้นตอนแรกให้เลือกที่แท็บ Labels แล้วกำหนด database เป็นไฟล์ที่เราได้ทำการ Exchange Database เมื่อสักครู่ จากนั้นให้เลือก Table หรือชีตที่มีข้อมูลอยู่ สุดท้ายให้เลือกฟิลด์ที่ต้องการในช่อง Database field โดยคลิกที่ปุ่มลูกศรที่อยู่ทางซ้ายมือ เพื่อแทรกฟิลด์ดังกล่าวลงในเอกสารที่กำลังจะสร้าง</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-FSJyO07s-Y8/VG6KDab0lEI/AAAAAAAAEIE/pPd14dOYB44/s1600/2557-11-21%2B07_37_11-Labels.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="http://2.bp.blogspot.com/-FSJyO07s-Y8/VG6KDab0lEI/AAAAAAAAEIE/pPd14dOYB44/s1600/2557-11-21%2B07_37_11-Labels.png" height="250" width="320" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">ขั้นตอนถัดไปให้เลือกแท็บ Format แล้วกำหนดรายละเอียดดังนี้</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"></div><ul><li>Horizontal pich : ขนาดความกว้างของชิ้นงานแต่ละชิ้น</li><li>Vertical pitch : ขนาดความสูงของชิ้นงานแต่ละชิ้น</li><li>Width : ความกว้างของตัว Label และต้องไม่มากกว่า Horizontal pitch</li><li>Height : ความสูงของตัว Label และต้องไม่มากกว่า Vertical pitch</li><li>Left margin : ขอบด้านซ้ายของ Label</li><li>Top margin : ขอบด้านบนของ Label</li><li>Columns : กำหนดว่าเอกสารที่จะสร้างนี้จะมี Label ทั้งหมดกี่คอลัมน์</li><li>Rows : กำหนดว่าเอกสารที่จะสร้างนี้จะมี Label ทั้งหมดกี่แถว</li><li>Page Width : เป็นส่วนที่แสดงให้เราเห็นว่าขณะนี้หน้ากระดาษที่จะสร้าง Label มีความกว้างเท่าไร</li><li>Page Height : เป็นส่วนที่แสดงให้เราเห็นว่าขณะนี้หน้ากระดาษที่จะสร้าง Label มีความสูงเท่าไร</li></ul><div>ข้อแนะนำ - หากกำหนดให้ Width กับ Horizontal pitch เท่ากัน และ Height กับ Vertical pitch เท่ากัน จะทำให้ Label แต่ละชิ้น ติดกัน ไม่มีระยะห่างจากกัน และข้อมูลที่แสดงใน Page Width กับ Page Height ทำให้เราทราบว่าขนาดเกินกว่ากระดาษที่จะใช้หรือไม่ ถ้าเกินก็จะต้องลดขนาดอื่นๆ ลง โดยความกว้างของ A4 = 21 cm. และความสูง = 29.7 cm.</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-dUoDq9eo8lM/VG6Mao1y89I/AAAAAAAAEIQ/gR6rsJyi59Y/s1600/2557-11-21%2B07_37_25-Labels.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="http://1.bp.blogspot.com/-dUoDq9eo8lM/VG6Mao1y89I/AAAAAAAAEIQ/gR6rsJyi59Y/s1600/2557-11-21%2B07_37_25-Labels.png" height="251" width="320" /></a></div><div>สุดท้ายให้ไปที่แท็บ Options แล้วทำเครื่องหมายหน้าข้อ Synchronize contents แล้วกดปุ่ม New Document</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-AcZG6aO4EFA/VG6M0FBas6I/AAAAAAAAEIY/m2FOK9IQhTQ/s1600/2557-11-21%2B07_51_53-Untitled%2B2%2B-%2BLibreOffice%2BWriter.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="http://3.bp.blogspot.com/-AcZG6aO4EFA/VG6M0FBas6I/AAAAAAAAEIY/m2FOK9IQhTQ/s1600/2557-11-21%2B07_51_53-Untitled%2B2%2B-%2BLibreOffice%2BWriter.png" height="171" width="320" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">เมื่อสร้างเอกสาร เราสามารถกำหนดรูปแบบได้ตามต้องการ แต่ให้กำหนดที่ Label แรกเท่านั้น โดยเมื่อต้องการให้ Label อื่นมีรูปแบบเดียวกัน ให้คลิกที่ปุ่ม Synchronize Labels รูปแบบข้อมูลใน Label อื่นๆ ก็มีถูกเปลี่ยนให้เหมือนกัน</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">เมื่อต้องการสั่งพิมพ์ให้ไปที่เมนู File &gt; Print</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-Wisp-OK0w1Q/VG6NYPsBe8I/AAAAAAAAEIg/XwmCXoy-__s/s1600/2557-11-21%2B07_54_27-LibreOffice%2B3.6.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="http://1.bp.blogspot.com/-Wisp-OK0w1Q/VG6NYPsBe8I/AAAAAAAAEIg/XwmCXoy-__s/s1600/2557-11-21%2B07_54_27-LibreOffice%2B3.6.png" height="69" width="320" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">เมื่อปรากฎหน้าต่างแจ้งเราว่าข้อมูลที่จะสั่งพิมพ์มีการเชื่อมกับฐานข้อมูลอยู่ ให้กดปุ่ม Yes ยืนยันการสั่งพิมพ์</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-_jOetRuM8u4/VG6OP2wTjXI/AAAAAAAAEIo/MXvQxX3zuWI/s1600/2557-11-21%2B07_56_08-Mail%2BMerge.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="http://2.bp.blogspot.com/-_jOetRuM8u4/VG6OP2wTjXI/AAAAAAAAEIo/MXvQxX3zuWI/s1600/2557-11-21%2B07_56_08-Mail%2BMerge.png" height="239" width="320" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">เราสามารถเลือกได้ว่าจะสั่งพิมพ์ทั้งหมด หรือเลือกเฉพาะรายการที่ต้องการได้ในหน้าต่างนี้ รวมทั้งสามารถสั่งพิมพ์ลงในไฟล์เพื่อตรวจสอบความถูกต้องก่อน ที่จะสั่งพิมพ์ออกทางเครื่องพิมพ์</div><div><br /></div>Tatat Thanakanokhttp://www.blogger.com/profile/17792380976640795984[email protected]0tag:blogger.com,1999:blog-480103116499236663.post-27707606684246554072014-11-17T18:37:00.001+07:002014-11-17T18:37:09.132+07:00แนะนำซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สที่ใช้บน PCเวลาผมไปพรีเซนเกี่ยวกับ LibreOffice ที่ไหน ผมจะเปิดให้คนฟังถาม ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยมีคนถาม เพราะอาจจะยังไม่รู้จะถามอะไรเกี่ยวกับ LibreOffice แต่พอบอกว่าจะถามเรื่องอื่นๆ ก็ได้นะ เกี่ยวกับโอเพนซอร์สถ้าผมรู้ผมจะตอบให้ ทีนี้ล่ะยิงมากันใหญ่เลย 555<br /><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-cPCDQsLVXu4/VGndnUPPZ1I/AAAAAAAAEHA/sbN7QM1NHXo/s1600/logo.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="http://4.bp.blogspot.com/-cPCDQsLVXu4/VGndnUPPZ1I/AAAAAAAAEHA/sbN7QM1NHXo/s1600/logo.png" height="249" width="320" /></a></div><div><br /></div><div>มีคำถามประเภทนึงที่ผมสังเกตว่ามีคนถามกันเยอะ นั่นคือ ถ้าเขาจะเปลี่ยนมาใช้โอเพนซอร์สนอกจาก LibreOffice แล้ว มันมีอะไรมาแทนซอฟต์แวร์ที่เขาใช้อยู่บ้าง พอมีคนเปิดประเด็นนี้ หลายๆ คนก็เริ่มนึกคำถามออก แล้วกิจกรรมก็เริ่มสนุกขึ้นมาทันที<br /><a name='more'></a></div><div><br /></div><div>วันนี้เลยจะรวบรวม และไล่เรียงให้เพื่อนๆ ได้ดูว่ามีซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สอีกมากมาย ที่น่าสนใจ และนำมาทดแทนซอฟต์แวร์ในเครื่องเราได้อีกเยอะเลย</div><div><br /></div><table align="center" border="1" style="width: 600px;"><tbody><tr><td align="center" width="40%">ประเภทซอฟต์แวร์</td><td align="center" width="20%">ซอฟต์แวร์ที่เป็นที่รู้จัก</td><td align="center" width="20%">ซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส</td><td align="center" width="20%">ฟรีแวร์</td></tr><tr><td align="center" width="40%">Office Suite</td><td align="center" width="20%">Microsoft Office</td><td align="center" width="20%">LibreOffice, OpenOffice.org</td><td align="center" width="20%">Kingsoft Office, WPS Office</td></tr><tr><td align="center" width="40%">Web Browser</td><td align="center" width="20%">Internet Explorer</td><td align="center" width="20%">Mozilla Firefox, Google Chromium</td><td align="center" width="20%">Google Chrome</td></tr><tr><td align="center" width="40%">File Compression</td><td align="center" width="20%">WinZip, WinRAR</td><td align="center" width="20%">7zip</td><td align="center" width="20%">-</td></tr><tr><td align="center" width="40%">Email Client</td><td align="center" width="20%">Microsoft Outlook</td><td align="center" width="20%">Mozilla Thunderbird, Zimbra Client</td><td align="center" width="20%">Windows Live Mail</td></tr><tr><td align="center" width="40%">Mind Mapping</td><td align="center" width="20%">Mind Manager</td><td align="center" width="20%">FreeMind, FreePlane</td><td align="center" width="20%">-</td></tr><tr><td align="center" width="40%">Project Management</td><td align="center" width="20%">Microsoft Project Manager</td><td align="center" width="20%">OpenProject, ProjectLibre</td><td align="center" width="20%">-</td></tr><tr><td align="center" width="40%">Diagramming Software</td><td align="center" width="20%">Microsoft Visio</td><td align="center" width="20%">Dia, Diagramly, Pencil Project</td><td align="center" width="20%">-</td></tr><tr><td align="center" width="40%">Screen Capture</td><td align="center" width="20%">Snagit</td><td align="center" width="20%">Greenshot</td><td align="center" width="20%">-</td></tr><tr><td align="center" width="40%">Video Screen Capture</td><td align="center" width="20%">Camtasia Studio</td><td align="center" width="20%">Camstudio</td><td align="center" width="20%">-</td></tr><tr><td align="center" width="40%">Image/Photo Editor</td><td align="center" width="20%">Adobe Photoshop</td><td align="center" width="20%">GIMP</td><td align="center" width="20%">Picasa</td></tr><tr><td align="center" width="40%">Software Design (Vector)</td><td align="center" width="20%">Adobe Illustrator</td><td align="center" width="20%">Inkscape</td><td align="center" width="20%">Karbon 14</td></tr><tr><td align="center" width="40%">Software Convert to PDF</td><td align="center" width="20%">Adobe Acrobat Professional</td><td align="center" width="20%">PDFCreator, LibreOffice</td><td align="center" width="20%">-</td></tr><tr><td align="center" width="40%">PDF Editor</td><td align="center" width="20%">Adobe Acrobat Professional</td><td align="center" width="20%">PDF Split and Merge</td><td align="center" width="20%">PDF X-Change Viewer, PDFill PDF Tools</td></tr></tbody></table><br /><div>ลิสต์ไป ลิสต์มา เริ่มตันแฮะ นึกไม่ค่อยออก 555 เอางี้ละกัน ถ้าเพื่อนๆ มีอะไรสอบถาม ก็คอมเม้นมาได้เลย หรือถ้ามีส่วนใดที่ผมตกหล่นก็แนะนำมาเลยนะครับ ผมจะเอามาเพิ่มให้ทีหลังครับ ตอนนี้เอาเท่านี้ก่อนละกันนะ<br /><div><br /></div></div>Tatat Thanakanokhttp://www.blogger.com/profile/17792380976640795984[email protected]0tag:blogger.com,1999:blog-480103116499236663.post-17400550759651456792014-11-04T09:24:00.000+07:002014-11-04T09:30:30.996+07:00หนึ่งในวิธีที่ทำแล้ว LibreOffice จะแฮงค์ต้องขอโทษเพื่อนๆ สมาชิกด้วยนะครับ ที่ผ่านมาไม่มีเวลาอัปเดทข้อมูลเลย จริงๆ มีอะไรจะเล่าเยอะมาก แต่การเขียนบทความหนึ่ง ค่อนข้างใช้เวลาพอสมควร<br /><br />พอดีผมเก็บหลายๆ อย่างไว้ แล้วกลัวว่าจะลืม คงต้องเขียนเล่าบ้าง เดี๋ยวจะกลายเป็นข้อมูลที่หายสาปสูญไปเสียเปล่าๆ T^T แต่ขอเล่าสั้นๆ ละกันนะครับ ปกติเคยเล่าแต่ยาวๆ ^^<br /><br />ปัญหาที่เพื่อนๆ มักจะพบเจอเมื่อใช้งาน LibreOffice และจะต้องแทบจะร้องไห้เสมอเมื่อพบเจอคือ โปรแกรมแฮงค์ ปิดตัวไปเอง หรือที่เขาเรียกกันว่าโปรแกรมแคลช วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับประสบการณ์ของผมเอง ที่พบเจอปัญหา ให้เพื่อนๆ ทราบ และหลีกเลี่ยงวิธีการเหล่านั้น เพื่อป้องกันปัญหาโปรแกรมแฮงค์ครับ<br /><br /><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-6ved08hJl2k/VFg4heA5ijI/AAAAAAAAEF4/G7mNBElUluY/s1600/sosad.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="http://3.bp.blogspot.com/-6ved08hJl2k/VFg4heA5ijI/AAAAAAAAEF4/G7mNBElUluY/s1600/sosad.png" /></a></div><a name='more'></a><br /><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><br /></div>นี่คือสิ่งที่เป็นสาเหตุที่ทำให้โปรแกรมแฮงค์ที่ผมเจอนะครับ นั่นคือ หากเรามีการแทรกรูปภาพลงในเอกสารของเรา ไม่ว่าแทรกบน Writer, Impress, Draw หรือ Calc ห้ามเพื่อนๆ เลื่อน หรือขยับรูปภาพ โดยการใช้ Arrow Key แบบกดรัวๆ หรือกดค้างเด็ดขาด เนื่องจากจะทำให้โปรแกรมค้าง แฮงค์ แล้วก็ปิดตัวไปเอง แล้วยิ่งถ้าไม่ได้กด save แล้วด้วยล่ะก็ คงแทบจะร้องไห้กันเลยทีเดียว T^T<br /><br />ถ้าจะพูดถึงเหตุผล ผมสัมนิษฐานเอาเองนะครับ (ยังไม่ได้รับการยืนยันจากผู้พัฒนาว่าเหตุผลนี้ถูกต้องไหม) คือ LibreOffice มีปัญหากับการทำงานกับวัตถุเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จะเห็นว่ารูปภาพที่แทรกลงในเอกสาร ส่งผลให้เอกสารมีขนาดใหญ่ และ LibreOffice ก็จะทำงานช้า ถึงช้ามากกับไฟล์ที่มีขนาดใหญ่<br /><br />การใช้ปุ่ม Arrow Key เพื่อขยับ หรือเลื่อนรูปภาพเหล่านั้น 1 ครั้ง LibreOffice ก็จะคำนวณ 1 ครั้ง ซึ่งถ้ากดรัวๆ หรือกดค้าง ก็จะทำให้โปรแกรมประมวลผลไม่ทัน หรือ memory ไม่พอ แล้วก็ปิดตัวเองลงไปในที่สุด<br /><br />ปัญหานี้แต่ละคนอาจจะพบไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับขนาด และจำนวนของรูปภาพในเอกสาร กับประสิทธิภาพของเครื่อง และเวอร์ชันของ LibreOffice แต่ถ้าในเอกสารมีรูปมากกว่า 100 รูป แล้วทำวิธีการที่ผมว่า น่าจะแฮงค์เกือบ 100% นะผมว่า หุหุหุ<br /><br /><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-rQjqj0wcbrY/VFg6PahBrGI/AAAAAAAAEGE/T2uKumtB8bY/s1600/sogood.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="http://1.bp.blogspot.com/-rQjqj0wcbrY/VFg6PahBrGI/AAAAAAAAEGE/T2uKumtB8bY/s1600/sogood.png" /></a></div><br />Tatat Thanakanokhttp://www.blogger.com/profile/17792380976640795984[email protected]0tag:blogger.com,1999:blog-480103116499236663.post-8096363138075097662014-06-26T14:15:00.000+07:002014-06-26T14:15:13.783+07:00วิธีแก้ปัญหาเปิดไฟล์แล้วขึ้น Auto Recoveryผู้ใช้มักพบปัญหาว่าเอกสารที่ปิดแบบไม่สมบูรณ์ เมื่อเปิดขึ้นมาอีกครั้ง จะขึ้นหน้าต่าง Auto Recovery ดังภาพตัวอย่างด้านล่าง<br /><br /><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://2.bp.blogspot.com/-XyHJcB8gaYc/U6vGP27UBfI/AAAAAAAAD9Q/w2NcrFjCgug/s1600/2557-06-26+14_05_06-LibreOffice+4.2.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="http://2.bp.blogspot.com/-XyHJcB8gaYc/U6vGP27UBfI/AAAAAAAAD9Q/w2NcrFjCgug/s1600/2557-06-26+14_05_06-LibreOffice+4.2.png" height="293" width="400" /></a></div><br />ซึ่ง Auto Recovery เป็นความสามารถที่จะช่วยกู้เอกสารที่ปิดไม่สมบูรณ์นี้ กลับมาให้ได้มากที่สุด แต่ปัญหาของความสามารถนี้คือ บางกรณีถึงแม้จะกู้เอกสารเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังมีหน้าต่างขึ้นมาถามเสมอ<br /><br />วิธีแก้ปัญหาให้ทำดังนี้ เริ่มจากให้เิปิดการแสดงผลของไฟล์ที่ถูกซ่อนไว้ก่อน โดยไปกำหนดที่ Option ของ Windows Explorer<br /><br /><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://4.bp.blogspot.com/-Nda5NJzdsUU/U6vG6oP891I/AAAAAAAAD9Y/eoTBiIFbq94/s1600/2557-06-26+14_01_56-Folder+Options.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="http://4.bp.blogspot.com/-Nda5NJzdsUU/U6vG6oP891I/AAAAAAAAD9Y/eoTBiIFbq94/s1600/2557-06-26+14_01_56-Folder+Options.png" height="303" width="400" /></a></div><br />จากนั้นให้เลือกที่โฟลเดอร์ที่จัดเก็บไฟล์ที่มีปัญหาของเรา ให้ลบไฟล์ประเภท .~lock ทิ้ง ซึ่งเป็นไฟล์ temp ที่โปรแกรมสร้างขึ้นมาสำหรับความสามารถ Recovery นี้ และเมื่อเกิดปัญหาจึงต้องลบไฟล์ดังกล่าวทิ้ง<br /><br />ข้อควรระวังคือ ต้องแน่ใจว่าต้องการยกเลิก Recovery Mode สำหรับเอกสารฉบับนี้จริงๆ ซึ่งการยกเลิกนี้จะไม่มีผลกับเอกสารฉบับจริง จะมีผลเพียงแค่ temp ของไฟล์ที่ถูกสร้างขึ้นเท่านั้นTatat Thanakanokhttp://www.blogger.com/profile/17792380976640795984[email protected]0tag:blogger.com,1999:blog-480103116499236663.post-12062673765646261872014-06-10T09:29:00.003+07:002014-06-10T09:29:48.863+07:00วิธีกำหนดระยะห่างระหว่างบรรทัด (ในย่อหน้าเดียวกัน)เราสามารถกำหนดระยะห่างระหว่างบรรทัดในย่อหน้าเดียวกันได้โดยการ คลิกขวาที่ย่อหน้าที่ต้องการกำหนดระยะห่าง แล้วเลือกเมนู Paragraph<br /><br /><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://3.bp.blogspot.com/-tI7MPgtxxw4/U5ZtNeOKi1I/AAAAAAAAD7k/6TORnToiXJY/s1600/2557-06-10+09_25_37-Paragraph.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="http://3.bp.blogspot.com/-tI7MPgtxxw4/U5ZtNeOKi1I/AAAAAAAAD7k/6TORnToiXJY/s1600/2557-06-10+09_25_37-Paragraph.png" height="332" width="640" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><br /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">กำหนดในส่วนของ Line spacing โดยเลือกรูปแบบได้ตามต้องการ หลังจากกำหนดรูปแบบเสร็จแล้วจะได้ผลลัพธ์ตามตัวอย่างด้านล่าง</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="http://1.bp.blogspot.com/-D1-x5KhN6Zc/U5Ztg8z6w1I/AAAAAAAAD7s/j1gJNCRHC3Y/s1600/2557-06-10+09_27_24-Untitled+1+-+LibreOffice+Writer.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="http://1.bp.blogspot.com/-D1-x5KhN6Zc/U5Ztg8z6w1I/AAAAAAAAD7s/j1gJNCRHC3Y/s1600/2557-06-10+09_27_24-Untitled+1+-+LibreOffice+Writer.png" height="242" width="640" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: left;"><br /></div><br />Tatat Thanakanokhttp://www.blogger.com/profile/17792380976640795984[email protected]0tag:blogger.com,1999:blog-480103116499236663.post-3107030264054422572014-06-06T13:35:00.002+07:002014-06-06T13:35:42.688+07:00วิธีการใช้งาน Presentation Minimizer วิธีการใช้งาน Presentation Minimizer <br /><br /><iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/UzdNBGEsh68" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>Anonymous[email protected]0tag:blogger.com,1999:blog-480103116499236663.post-76046874874641976262014-06-06T13:33:00.002+07:002014-06-06T13:36:28.708+07:00วิธีแก้ปัญหา LibreOffice Calc แสดงเป็นชื่อสูตร และแก้ปัญหาไม่แสดงผลเลข 0 วิธีแก้ปัญหา LibreOffice Calc แสดงเป็นชื่อสูตร และแก้ปัญหาไม่แสดงผลเลข 0 <br /><br /><iframe allowfullscreen="" frameborder="0" height="360" src="//www.youtube.com/embed/eYLFclkDJ40" width="640"></iframe>Anonymous[email protected]0tag:blogger.com,1999:blog-480103116499236663.post-29185202892658656112014-06-06T13:32:00.004+07:002014-06-06T13:32:48.391+07:00แนะนำวิธีใช้งาน Style and Formatting แนะนำวิธีใช้งาน Style and Formatting<br /><br /><iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/01GcafX-Cm8" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>Anonymous[email protected]0tag:blogger.com,1999:blog-480103116499236663.post-78606674435259651022014-06-06T13:32:00.000+07:002014-06-06T13:32:05.866+07:00การสร้างสารบัญอัตโนมัติ การสร้างสารบัญอัตโนมัติ<br /><br /><iframe allowfullscreen="" frameborder="0" height="360" src="//www.youtube.com/embed/Fv4EHSbAVnc" width="640"></iframe>Anonymous[email protected]0tag:blogger.com,1999:blog-480103116499236663.post-32815710974537552712014-06-06T13:31:00.003+07:002014-06-06T13:31:27.137+07:00RTG Template : การเปลี่ยนคำลงท้าย และจัดตำแหน่งคำลงท้าย RTG Template : การเปลี่ยนคำลงท้าย และจัดตำแหน่งคำลงท้าย <br /><iframe allowfullscreen="" frameborder="0" height="360" src="//www.youtube.com/embed/mbTADKpafp8" width="640"></iframe>Anonymous[email protected]0tag:blogger.com,1999:blog-480103116499236663.post-18512780664269119722014-06-06T13:30:00.002+07:002014-06-06T13:30:38.341+07:00RTG Template : การแทรกข้อความอ้างถึง และสิ่งที่ส่งมาด้วย RTG Template : การแทรกข้อความอ้างถึง และสิ่งที่ส่งมาด้วย<br /><br /><iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/xeI6tIgjq6s" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>Anonymous[email protected]0tag:blogger.com,1999:blog-480103116499236663.post-79077505653646428122014-06-06T13:28:00.001+07:002014-06-06T13:29:43.257+07:00RTG Template : การประทับตราชั้นความลับ และชั้นความเร็ว RTG Template : การประทับตราชั้นความลับ และชั้นความเร็ว <br /><iframe allowfullscreen="" frameborder="0" height="360" src="//www.youtube.com/embed/8xDEabCSGIw" width="640"></iframe>Anonymous[email protected]0tag:blogger.com,1999:blog-480103116499236663.post-58622970952917734022014-06-06T13:26:00.003+07:002014-06-06T13:26:32.780+07:00RTG Template : การลบตราประทับชั้นความลับ และชั้นความเร็ว RTG Template : การลบตราประทับชั้นความลับ และชั้นความเร็ว<br /><br /><iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/cN8JHrPCLzM" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>Anonymous[email protected]0tag:blogger.com,1999:blog-480103116499236663.post-87538381350758273522014-06-06T13:26:00.000+07:002014-06-06T13:26:01.205+07:00RTG Template : การแทรกข้อความต่อหน้า RTG Template : การแทรกข้อความต่อหน้า <br /><br /><iframe allowfullscreen="" frameborder="0" height="360" src="//www.youtube.com/embed/v82-xvBxmlA" width="640"></iframe>Anonymous[email protected]0tag:blogger.com,1999:blog-480103116499236663.post-24599746442589888062014-06-06T13:25:00.002+07:002014-06-06T13:25:22.426+07:00วิธีการกำหนดรูปแบบหน้ากระดาษด้วย Extension : Page From Here วิธีการกำหนดรูปแบบหน้ากระดาษด้วย Extension : Page From Here<br /><br /><iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/18QbiAi7Jqw" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>Anonymous[email protected]0tag:blogger.com,1999:blog-480103116499236663.post-55875917830116538402014-06-06T13:24:00.003+07:002014-06-06T13:24:44.832+07:00RTG Template : วิธีการทำสำเนาบนเอกสารราชการ RTG Template : วิธีการทำสำเนาบนเอกสารราชการ <br /><iframe allowfullscreen="" frameborder="0" height="360" src="//www.youtube.com/embed/-eIeRFPx2DI" width="640"></iframe>Anonymous[email protected]0